รายงานผลการประเมิน
อ่างทอง
/ กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน100
-
รายละเอียดตัวชี้วัด
- ระบบ TPMAP หมายถึง ระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (Thai People Map and Analytic Platform : TPMAP) โดย TPMAP เป็นระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนตลอดทุกช่วงวัย และการแก้ไขปัญหาความยากจนและเหลื่อมล้ำแบบชี้เป้า เป็นระบบที่ใช้ระบุปัญหาความยากจนในระดับบุคคล ครัวเรือน ชุมชน ท้องถิ่น/ท้องที่ จังหวัด ประเทศ
- ระบบ TPMAP ใช้วิธีการคำนวณดัชนีความยากจนหลายมิติ (Multidimensional Poverty Index : MPI) โดยอาศัยหลักการที่ว่าคนยากจน คือ ผู้ที่มีคุณภาพชีวิตต่ำกว่าเกณฑ์คุณภาพชีวิตที่ดีใน 5 มิติ ได้แก่ด้านสุขภาพ ด้านการศึกษา ด้านรายได้ ด้านความเป็นอยู่ และด้านการเข้าถึงบริการภาครัฐ โดยใช้ตัวชี้วัดความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) 17 ตัวชี้วัด ในการคำนวณดัชนีความยากจนหลายมิติ (MPI)
- กลุ่มเป้าหมายการดำเนินการตามแนวทางการขับเคลื่อนการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 หมายถึง จำนวนครัวเรือนเป้าหมายตามระบบ TPMAP
ปี 2566 ที่กระทรวงมหาดไทยแจ้งให้จังหวัดดำเนินการเมื่อเดือนมีนาคม 2566 (ข้อมูล ณ วันที่ 9 มีนาคม 2566) โดยกำหนดให้ติดตาม ดูแล สนับสนุนและให้ความช่วยเหลือครัวเรือนเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งบันทึกข้อมูลการให้ความช่วยเหลือในระบบ TPMAP Logbook ทุกครั้ง - พิจารณาความสำเร็จของการดำเนินงานการขับเคลื่อนงานขจัดความยากจนของศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในระดับพื้นที่ จากจำนวนครัวเรือนเป้าหมายตามระบบ TPMAP ปี 2566 เทียบกับจำนวนครัวเรือนเป้าหมายตามระบบ TPMAP ปี 2566 ที่ผ่านเกณฑ์ความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ปี 2567
ประเด็นการประเมิน | ผลการดำเนินงาน |
---|---|
การขับเคลื่อนการดำเนินงานการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง | 0.00 (ร้อยละ) |
รายละเอียดตัวชี้วัด
- พิจารณาจากการสำรวจสภาพปัญหายาเสพติดในระดับหมู่บ้าน/ชุมชน จากระบบสารสนเทศยาเสพติดจังหวัด (NISPA) ครั้งที่ 1 ของปี (ห้วงระยะเวลาตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคม 2567) ครั้งที่ 2 ของปี
(ห้วงระยะเวลาตั้งแต่เดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2567) - หมู่บ้าน/ชุมชนที่ไม่พบปัญหายาเสพติด หมายถึง หมู่บ้าน/ชุมชน ที่ไม่พบผู้เสพและไม่มีผู้ค้ายาเสพติด
- หมู่บ้าน/ชุมชน หมายถึง หมู่บ้านและชุมชนที่ประกาศจัดตั้งอย่างเป็นทางการภายใต้คำสั่งของกระทรวงมหาดไทย
ประเด็นการประเมิน | ผลการดำเนินงาน |
---|---|
ร้อยละของหมู่บ้าน/ชุมชนที่ไม่พบปัญหายาเสพติด | 0.00 (ร้อยละ) |
รายละเอียดตัวชี้วัด
- พิจารณาจากอัตราส่วนจำนวนคดีแต่ละกลุ่มที่รับแจ้งความร้องทุกข์ไว้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (1 ตุลาคม 2566 - 30 กันยายน 2567) เปรียบเทียบกับจำนวนประชากรในจังหวัดต่อประชากรแสนคน หรือเรียกว่า อัตราส่วนอาชญากรรม (Crime Rate)
- กำหนดกลุ่มอาชญากรรมที่จะต้องคำนวณอัตราส่วนอาชญากรรมต่อประชากรแสนคน 2 กลุ่ม ได้แก่
- กลุ่มที่ 1 หมายถึง กลุ่มคดีความผิดเกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย และเพศ นับจำนวนคดีฆ่าผู้อื่น (อุกฉกรรจ์) คดีทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย คดีพยายามฆ่า คดีทำร้ายร่างกาย คดีข่มขืนกระทำชำเรา และคดีอื่น ๆ
(ได้แก่ คดีฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา คดีประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย คดีอนาจารต่าง ๆ เป็นต้น) (ใช้ข้อมูลจากระบบ CRIMES ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในคดีอาญากลุ่มที่ 1 ฐานความผิดเกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย และเพศ)
- กลุ่มที่ 2 หมายถึง กลุ่มคดีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ นับจำนวนคดีปล้นทรัพย์ (อุกฉกรรจ์) คดีชิงทรัพย์ คดีวิ่งราวทรัพย์ คดีลักทรัพย์ คดีกรรโชกทรัพย์ คดีฉ้อโกง คดียักยอกทรัพย์ คดีทำให้เสียทรัพย์ คดีรับของโจร คดีลักพาเรียกค่าไถ่ คดีวางเพลิง และคดีอื่น ๆ
(ใช้ข้อมูลจากระบบ CRIMES ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในคดีอาญากลุ่มที่ 2 ฐานความผิดเกี่ยวกับทรัพย์)
- จำนวนประชากรของจังหวัดใช้ข้อมูลจากสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ใช้ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566
ประเด็นการประเมิน | ผลการดำเนินงาน |
---|---|
อัตราคดีอาชญากรรมต่อประชากรแสนคน |
รายละเอียดตัวชี้วัด
- พิจารณาจากอัตราส่วนจำนวนคดีแต่ละกลุ่มที่รับแจ้งความร้องทุกข์ไว้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (1 ตุลาคม 2566 - 30 กันยายน 2567) เปรียบเทียบกับจำนวนประชากรในจังหวัดต่อประชากรแสนคน หรือเรียกว่า อัตราส่วนอาชญากรรม (Crime Rate)
- กำหนดกลุ่มอาชญากรรมที่จะต้องคำนวณอัตราส่วนอาชญากรรมต่อประชากรแสนคน 2 กลุ่ม ได้แก่
- กลุ่มที่ 1 หมายถึง กลุ่มคดีความผิดเกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย และเพศ นับจำนวนคดีฆ่าผู้อื่น (อุกฉกรรจ์) คดีทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย คดีพยายามฆ่า คดีทำร้ายร่างกาย คดีข่มขืนกระทำชำเรา และคดีอื่น ๆ
(ได้แก่ คดีฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา คดีประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย คดีอนาจารต่าง ๆ เป็นต้น) (ใช้ข้อมูลจากระบบ CRIMES ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในคดีอาญากลุ่มที่ 1 ฐานความผิดเกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย และเพศ)
- กลุ่มที่ 2 หมายถึง กลุ่มคดีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ นับจำนวนคดีปล้นทรัพย์ (อุกฉกรรจ์) คดีชิงทรัพย์ คดีวิ่งราวทรัพย์ คดีลักทรัพย์ คดีกรรโชกทรัพย์ คดีฉ้อโกง คดียักยอกทรัพย์ คดีทำให้เสียทรัพย์ คดีรับของโจร คดีลักพาเรียกค่าไถ่ คดีวางเพลิง และคดีอื่น ๆ
(ใช้ข้อมูลจากระบบ CRIMES ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในคดีอาญากลุ่มที่ 2 ฐานความผิดเกี่ยวกับทรัพย์)
- จำนวนประชากรของจังหวัดใช้ข้อมูลจากสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ใช้ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566
ประเด็นการประเมิน | ผลการดำเนินงาน |
---|---|
อัตราคดีกลุ่มที่ 1 ต่อประชากรแสนคน | 0.00 (อัตราต่อประชากรแสนคน) |
รายละเอียดตัวชี้วัด
- พิจารณาจากอัตราส่วนจำนวนคดีแต่ละกลุ่มที่รับแจ้งความร้องทุกข์ไว้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (1 ตุลาคม 2566 - 30 กันยายน 2567) เปรียบเทียบกับจำนวนประชากรในจังหวัดต่อประชากรแสนคน หรือเรียกว่า อัตราส่วนอาชญากรรม (Crime Rate)
- กำหนดกลุ่มอาชญากรรมที่จะต้องคำนวณอัตราส่วนอาชญากรรมต่อประชากรแสนคน 2 กลุ่ม ได้แก่
- กลุ่มที่ 1 หมายถึง กลุ่มคดีความผิดเกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย และเพศ นับจำนวนคดีฆ่าผู้อื่น (อุกฉกรรจ์) คดีทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย คดีพยายามฆ่า คดีทำร้ายร่างกาย คดีข่มขืนกระทำชำเรา และคดีอื่น ๆ
(ได้แก่ คดีฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา คดีประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย คดีอนาจารต่าง ๆ เป็นต้น) (ใช้ข้อมูลจากระบบ CRIMES ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในคดีอาญากลุ่มที่ 1 ฐานความผิดเกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย และเพศ)
- กลุ่มที่ 2 หมายถึง กลุ่มคดีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ นับจำนวนคดีปล้นทรัพย์ (อุกฉกรรจ์) คดีชิงทรัพย์ คดีวิ่งราวทรัพย์ คดีลักทรัพย์ คดีกรรโชกทรัพย์ คดีฉ้อโกง คดียักยอกทรัพย์ คดีทำให้เสียทรัพย์ คดีรับของโจร คดีลักพาเรียกค่าไถ่ คดีวางเพลิง และคดีอื่น ๆ
(ใช้ข้อมูลจากระบบ CRIMES ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในคดีอาญากลุ่มที่ 2 ฐานความผิดเกี่ยวกับทรัพย์) - จำนวนประชากรของจังหวัดใช้ข้อมูลจากสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ใช้ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566
ประเด็นการประเมิน | ผลการดำเนินงาน |
---|---|
อัตราคดีกลุ่มที่ 2 ต่อประชากรแสนคน | 0.00 (อัตราต่อประชากรแสนคน) |
รายละเอียดตัวชี้วัด
14.1 รายได้จากการท่องเที่ยว
14.2 รายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP)
14.3 ค่าเฉลี่ยรายปีของปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5)
14.4 ค่าเฉลี่ยรายปีของปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10)
14.5 คุณภาพน้ำของแม่น้ำสายหลักอยู่ในเกณฑ์ดี
รายละเอียดตัวชี้วัด
- รายได้จากการท่องเที่ยวเป็นยอดรวมของรายได้จากการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและรายได้จากการท่องเที่ยวของผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
- ผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย หมายถึง นักท่องเที่ยวชาวไทย (ค้างคืน) และนักทัศนาจรชาวไทย (ไม่ค้างคืน)
- รายได้ของผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยพิจารณาจากการซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ ระหว่างการท่องเที่ยวในประเทศไทย ทั้งเพื่อตนเองหรือเป็นของฝาก ซึ่งครอบคลุมรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย (ผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ที่มิใช่ถิ่นที่อยู่ปกติ) ทั้งแบบพักค้างคืน และเช้าไป-เย็นกลับ
ประเด็นการประเมิน | ผลการดำเนินงาน |
---|---|
รายได้จากการท่องเที่ยว | 0.00 (ล้านบาท) |
รายละเอียดตัวชี้วัด
- รายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP) ประเมินจากรายได้การจำหน่ายผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (1 ตุลาคม 2566-30 กันยายน 2567)
ประเด็นการประเมิน | ผลการดำเนินงาน |
---|---|
รายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP) | 0.00 (ล้านบาท) |
รายละเอียดตัวชี้วัด
- การวัดผลรอบ 6 เดือน พิจารณาจากค่าคะแนนดัชนีคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน (Water Quality Index : WQI) ของลุ่มน้ำและจังหวัดเป้าหมายจากการเก็บน้ำในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2566
- การวัดผลรอบ 12 เดือน พิจารณาจากค่าคะแนนดัชนีคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน (Water Quality Index : WQI) ของลุ่มน้ำและจังหวัดเป้าหมายเฉลี่ยในรอบปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
- ผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ใช้ค่าคะแนนดัชนีคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน (Water Quality Index : WQI) ของลุ่มน้ำและจังหวัดเป้าหมายเฉลี่ยในรอบปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
- ข้อมูลคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดินพิจารณาจากจุดตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษที่ใช้จัดทำรายงานสถานการณ์คุณภาพน้ำ
- พิจารณาการประเมินผลเป็นรายแหล่งน้ำของจังหวัดเป้าหมาย
- ดัชนีคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน (Water Quality Index : WQI) การประเมินผลลัพธ์ค่าคะแนนรวมของคุณภาพน้ำ 5 พารามิเตอร์ ได้แก่
1. ออกซิเจนละลายน้ำ : DO
2. ความสกปรกในรูปสารอินทรีย์ : BOD
3. การปนเปื้อนของกลุ่มแบคทีเรียกลุ่มโคลิฟอร์มทั้งหมด : TCB
4. การปนเปื้อนของกลุ่มแบคทีเรียกลุ่มฟีคอลโคลิฟอร์มทั้งหมด : FCB
5. แอมโมเนีย : NH3-N - ค่าคะแนนรวมของคุณภาพน้ำ 5 พารามิเตอร์ มีหน่วยเป็นคะแนน เริ่มจาก 0 ถึง 100 คะแนน ดังนี้
91-100 คะแนน คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ดีมาก
71-90 คะแนน คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ดี
61-70 คะแนน คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์พอใช้
31-60 คะแนน คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม
0-30 คะแนน คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมมาก
ประเด็นการประเมิน | ผลการดำเนินงาน |
---|---|
คุณภาพน้ำของแม่น้ำสายหลักอยู่ในเกณฑ์ดี |
รายละเอียดตัวชี้วัด
- การวัดผลรอบ 6 เดือน พิจารณาจากค่าคะแนนดัชนีคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน (Water Quality Index : WQI) ของลุ่มน้ำและจังหวัดเป้าหมายจากการเก็บน้ำในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2566
- การวัดผลรอบ 12 เดือน พิจารณาจากค่าคะแนนดัชนีคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน (Water Quality Index : WQI) ของลุ่มน้ำและจังหวัดเป้าหมายเฉลี่ยในรอบปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
- ผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ใช้ค่าคะแนนดัชนีคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน (Water Quality Index : WQI) ของลุ่มน้ำและจังหวัดเป้าหมายเฉลี่ยในรอบปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
- ข้อมูลคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดินพิจารณาจากจุดตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษที่ใช้จัดทำรายงานสถานการณ์คุณภาพน้ำ
- พิจารณาการประเมินผลเป็นรายแหล่งน้ำของจังหวัดเป้าหมาย
- ดัชนีคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน (Water Quality Index : WQI) การประเมินผลลัพธ์ค่าคะแนนรวมของคุณภาพน้ำ 5 พารามิเตอร์ ได้แก่
1. ออกซิเจนละลายน้ำ : DO
2. ความสกปรกในรูปสารอินทรีย์ : BOD
3. การปนเปื้อนของกลุ่มแบคทีเรียกลุ่มโคลิฟอร์มทั้งหมด : TCB
4. การปนเปื้อนของกลุ่มแบคทีเรียกลุ่มฟีคอลโคลิฟอร์มทั้งหมด : FCB
5. แอมโมเนีย : NH3-N - ค่าคะแนนรวมของคุณภาพน้ำ 5 พารามิเตอร์ มีหน่วยเป็นคะแนน เริ่มจาก 0 ถึง 100 คะแนน ดังนี้
91-100 คะแนน คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ดีมาก
71-90 คะแนน คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ดี
61-70 คะแนน คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์พอใช้
31-60 คะแนน คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม
0-30 คะแนน คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมมาก
ประเด็นการประเมิน | ผลการดำเนินงาน |
---|---|
แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบน | 0.00 (คะแนน) |
รายละเอียดตัวชี้วัด
- การวัดผลรอบ 6 เดือน พิจารณาจากค่าคะแนนดัชนีคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน (Water Quality Index : WQI) ของลุ่มน้ำและจังหวัดเป้าหมายจากการเก็บน้ำในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2566
- การวัดผลรอบ 12 เดือน พิจารณาจากค่าคะแนนดัชนีคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน (Water Quality Index : WQI) ของลุ่มน้ำและจังหวัดเป้าหมายเฉลี่ยในรอบปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
- ผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ใช้ค่าคะแนนดัชนีคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน (Water Quality Index : WQI) ของลุ่มน้ำและจังหวัดเป้าหมายเฉลี่ยในรอบปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
- ข้อมูลคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดินพิจารณาจากจุดตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษที่ใช้จัดทำรายงานสถานการณ์คุณภาพน้ำ
- พิจารณาการประเมินผลเป็นรายแหล่งน้ำของจังหวัดเป้าหมาย
- ดัชนีคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน (Water Quality Index : WQI) การประเมินผลลัพธ์ค่าคะแนนรวมของคุณภาพน้ำ 5 พารามิเตอร์ ได้แก่
1. ออกซิเจนละลายน้ำ : DO
2. ความสกปรกในรูปสารอินทรีย์ : BOD
3. การปนเปื้อนของกลุ่มแบคทีเรียกลุ่มโคลิฟอร์มทั้งหมด : TCB
4. การปนเปื้อนของกลุ่มแบคทีเรียกลุ่มฟีคอลโคลิฟอร์มทั้งหมด : FCB
5. แอมโมเนีย : NH3-N - ค่าคะแนนรวมของคุณภาพน้ำ 5 พารามิเตอร์ มีหน่วยเป็นคะแนน เริ่มจาก 0 ถึง 100 คะแนน ดังนี้
91-100 คะแนน คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ดีมาก
71-90 คะแนน คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ดี
61-70 คะแนน คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์พอใช้
31-60 คะแนน คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม
0-30 คะแนน คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมมาก
ประเด็นการประเมิน | ผลการดำเนินงาน |
---|---|
แม่น้ำน้อย | 0.00 (คะแนน) |
รายละเอียดตัวชี้วัด
15.1 การสร้างนวัตกรรมในการปรับปรุงกระบวนงานหรือการให้บริการ (e-Service) กำหนดวัดผลตัวชี้วัดร้อยละความพึงพอใจต่อการให้บริการประชาชนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) น้ำหนักร้อยละ 10
15.2 การพัฒนาระบบข้อมูลให้เป็นดิจิทัล (Digitize Data) ทั้งข้อมูลที่ใช้ภายในหน่วยงานและข้อมูลที่จะเผยแพร่สู่หน่วยงานภายนอก/สาธารณะ เพื่อนำไปสู่การเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ (Open Data)
กำหนดวัดผลตัวชี้วัดความสำเร็จของการจัดทำบัญชีข้อมูลภาครัฐ (Government Data Catalog) เพื่อใช้ประโยชน์ในการขับเคลื่อนประเด็นพัฒนาจังหวัด น้ำหนักร้อยละ 5
15.3 การปรับเปลี่ยนหน่วยงานไปสู่ความเป็นดิจิทัล (Digital Transformation) กำหนดวัดผลตัวชี้วัดระดับความพร้อมรัฐบาลดิจิทัลหน่วยงานภาครัฐของประเทศไทยของจังหวัด น้ำหนักร้อยละ 5
รายละเอียดตัวชี้วัด
- พิจารณาความสำเร็จจากร้อยละของความพึงพอใจของผู้รับบริการ e-Service ณ ที่ว่าการอำเภอ/ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอในภาพรวมของจังหวัด
- การให้บริการประชาชนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) ณ ที่ว่าการอำเภอ/ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่ไม่มีความพร้อมของเครื่องมืออุปกรณ์
และมีข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีเจ้าหน้าที่ของอำเภอ/ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเป็นผู้อำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำปรึกษาในการรับบริการ - จังหวัดเปิดให้บริการด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) อย่างน้อย 20 งานบริการครบทุกอำเภอต่อเนื่องจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เว็บไซต์อำเภอดอทคอม (www.amphoe.com) และ Link 725
งานบริการ e-Service ของรัฐ (https://www.opdc.go.th/content/NzkxMw) ของสำนักงาน ก.พ.ร. และจัดเก็บ ผลสำรวจความพึงพอใจในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการ
ผ่าน https://bit.ly/peservice หรือ QR Code ด้านล่าง
ประเด็นการประเมิน | ผลการดำเนินงาน |
---|---|
ร้อยละความพึงพอใจต่อการให้บริการประชาชนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) | 0.00 (ร้อยละ) |
รายละเอียดตัวชี้วัด
- พิจารณาความสำเร็จจากการดำเนินการตามขั้นตอนการจัดทำบัญชีข้อมูลจังหวัด เพื่อบูรณาการ และแบ่งปันที่ระบบบัญชีข้อมูลภาครัฐ และการใช้ประโยชน์บัญชีข้อมูลภาครัฐ
เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดได้ครบถ้วน - ขั้นตอนการดำเนินการ ประกอบด้วย 2 กิจกรรมหลัก ประกอบด้วย กิจกรรมที่ 1 การจัดทำบัญชีข้อมูลจังหวัด เพื่อบูรณาการและแบ่งปันที่ระบบบัญชีข้อมูลภาครัฐ
และกิจกรรมที่ 2 การใช้ประโยชน์บัญชีข้อมูลภาครัฐ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัด โดยมีขั้นตอนการดำเนินการ ดังนี้
กิจกรรมที่ 1 : การจัดทำบัญชีข้อมูลจังหวัด เพื่อบูรณาการและแบ่งปันที่ระบบบัญชีข้อมูลภาครัฐ
- กำหนดผังสถิติทางการระดับพื้นที่สำหรับใช้ในการขับเคลื่อนประเด็นการพัฒนาจังหวัดทุกประเด็นสำคัญของการพัฒนาจังหวัด ผ่านกลไกคณะกรรมการสถิติระดับจังหวัด โดยพิจารณาสถานะของชุดข้อมูลในผังสถิติทางการระดับพื้นที่ พร้อมทั้งจำแนกสถานะของชุดข้อมูล ออกเป็น 3 สถานะ ดังนี้
- Tier 1 คือ ชุดข้อมูลที่มีคำนิยามและวิธีการผลิต มีข้อมูลพร้อมเผยแพร่และมีหน่วยงานรับผิดชอบ
- Tier 2 คือ ชุดข้อมูลที่มีคำนิยามและวิธีการผลิต มีหน่วยงานรับผิดชอบ แต่ข้อมูลไม่พร้อมเผยแพร่
- Tier 3 คือ ชุดข้อมูลที่ไม่มีคำนิยามและวิธีการผลิต ไม่มีข้อมูล และไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบ - จัดทำชุดข้อมูล คำอธิบายข้อมูล และคำอธิบายทรัพยากรข้อมูลใน Template 1, 2 และ 3 ตามลำดับ เฉพาะชุดข้อมูลที่มีสถานะเป็น Tier 1 ที่หน่วยงานในจังหวัดเป็นเจ้าของ (Data owners)
- จัดเตรียมทรัพยากรของชุดข้อมูลที่มีสถานะเป็น Tier 1 ที่หน่วยงานในจังหวัดเป็นเจ้าของ (Data owners) ตาม Template 1 ให้อยู่ในรูปแบบ Machine Readable (CSV เป็นอย่างน้อย)
- นำชุดข้อมูลที่มีสถานะเป็น Tier 1 ที่หน่วยงานในจังหวัดเป็นเจ้าของ (Data owners) ตาม Template 1-3 ขึ้นบนระบบบัญชีข้อมูลจังหวัด พร้อมชี้ link ไปยังแหล่งทรัพยากรข้อมูลที่ถูกจัดเตรียมไว้ในรูปแบบMachine Readable
- นำชุดข้อมูลตามข้อ (4) ที่อยู่บนระบบบัญชีข้อมูลจังหวัดลงทะเบียนที่ระบบบัญชีข้อมูลภาครัฐ
กิจกรรมที่ 2 : การใช้ประโยชน์บัญชีข้อมูลภาครัฐ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัด
- กำหนด 1 ประเด็นย่อย ภายใต้ประเด็นการพัฒนาจังหวัด ผ่านกลไกคณะกรรมการสถิติระดับจังหวัด (ประเด็นย่อยที่เลือกต้องไม่ซ้ำกับที่ดำเนินการมาแล้วในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 และ 2566)
- จัดทำข้อกำหนดการวิเคราะห์ชุดข้อมูล (Data Model) สำหรับประเด็นย่อย ภายใต้ประเด็นการพัฒนาจังหวัด กิจกรรมที่ 2 (1) สำหรับใช้เป็นกรอบในการวิเคราะห์และจัดทำสารสนเทศ
- ดึงข้อมูล API จากบัญชีข้อมูลภาครัฐมาวิเคราะห์และจัดทำสารสนเทศในรูปแบบ Visualization ตามข้อกำหนดการวิเคราะห์ชุดข้อมูล (Data Model) สำหรับประเด็นย่อย ภายใต้ประเด็นการพัฒนาในจังหวัดที่ออกแบบไว้ในกิจกรรมที่ 2 (2)
- นำเสนอสารสนเทศ ผ่านกลไกคณะกรรมการสถิติระดับจังหวัด
- นำชุดข้อมูลสารสนเทศ เผยแพร่บนระบบบัญชีข้อมูลจังหวัด และลงทะเบียนที่ระบบบัญชีข้อมูลภาครัฐ
ประเด็นการประเมิน | ผลการดำเนินงาน |
---|---|
1. ผังสถิติทางการระดับพื้นที่ ทุกประเด็นสำคัญของการพัฒนาจังหวัด (ขั้นต้น) | ไม่ผ่าน |
2. มีชุดข้อมูล คำอธิบายข้อมูลและคำอธิบาย ทรัพยากรข้อมูลในTemplate 1, 2 และ 3 สำหรับข้อมูลที่มีสถานะเป็น Tier 1 ที่หน่วยงานในจังหวัดเป็นเจ้าของ (Data owners) (ขั้นต้น) | ไม่ผ่าน |
3. ทรัพยากรข้อมูลประเภทโครงสร้าง (Structured Data) (ที่มีสถานะเป็น Tier 1 ที่หน่วยงานในจังหวัดเป็นเจ้าของ) มีคุณลักษณะเป็น Machine Readable (ขั้นต้น) | ไม่ผ่าน |
4. มีข้อกำหนดการวิเคราะห์ชุดข้อมูล (Data Model) สำหรับประเด็นย่อย ภายใต้ประเด็นการพัฒนาจังหวัด 1 ประเด็นย่อย (ขั้นมาตรฐาน) | ไม่ผ่าน |
5. มีชุดข้อมูล (เฉพาะ Tier 1 ที่หน่วยงานในจังหวัดเป็นเจ้าของ) ขึ้นบนระบบบัญชีข้อมูลจังหวัด พร้อมระบุ link ไปยังแหล่งทรัพยากรข้อมูล และนำชุดข้อมูลดังกล่าวลงทะเบียนที่ระบบบัญชีข้อมูลภาครัฐ (ขั้นมาตรฐาน) | ไม่ผ่าน |
6. มีสารสนเทศสำหรับประเด็นย่อย ภายใต้ประเด็นการพัฒนาจังหวัด 1 ประเด็นย่อย โดยวิธีการดึงข้อมูล API (ขั้นสูง) | ไม่ผ่าน |
7. เผยแพร่ชุดข้อมูลสารสนเทศบนระบบบัญชีข้อมูลจังหวัดและลงทะเบียนที่ระบบบัญชีข้อมูลภาครัฐ (ขั้นสูง) | ไม่ผ่าน |
รายละเอียดตัวชี้วัด
- สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. สำรวจ เก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ และวิจัย เพื่อจัดทำตัวชี้วัด ดัชนีสนับสนุนการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล
ซึ่งสอดคล้องกับโครงการสำรวจระดับความพร้อมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลหน่วยงานภาครัฐ ที่ทำการสำรวจมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 จนถึงปัจจุบัน โดยในปี พ.ศ. 2566 สพร. ได้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย
ในการสำรวจ จำนวนรวมทั้งสิ้น 376 หน่วยงาน ประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐระดับกรมหรือเทียบเท่า จำนวน 300 หน่วยงาน (ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และหน่วยงานรูปแบบอื่น)
และคณะกรรมการผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูงระดับจังหวัด (Provincial Chief Information Officer Committee: PCIO) จำนวน 76 จังหวัด -
ระดับความพร้อมรัฐบาลดิจิทัล แบ่งเป็น 5 ระดับ (ระดับที่ 1 ระดับขั้นริเริ่ม (Initial) , ระดับที่ 2 ระดับขั้นต้น (Developing) , ระดับที่ 3 ระดับขั้นกลาง (Defined) , ระดับที่ 4 ระดับขั้นสูง (Managed) ,
ระดับที่ 5 ระดับขั้นสูงสุด (Optimizing)) จากการสำรวจ 7 ตัวชี้วัด (Pillar) ได้แก่ 1) Policies and Practices 2) Data-driven Practices 3) Digital Capability 4) Public Service 5) Smart Back Office 6)
Secure and Efficient Infrastructure และ 7) Digital Technology Practices -
ผลการสำรวจดังกล่าวจะสามารถใช้เป็นข้อมูลประกอบการจัดทำนโยบายและแผนการขับเคลื่อนภาครัฐไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government) โดย สพร.
เป็นผู้ประมวลผลจากการสำรวจจากหน่วยงานทั้งหมดที่ประเมินตนเองตามแบบสำรวจของ สพร. (DG Readiness Survey) แล้วประกาศผลระดับความพร้อมรัฐบาลดิจิทัลในทุกปี
ผ่านเว็บไซต์ https://www.dga.or.th/policy-standard/policy-regulation/dg-readiness-survey/ -
ระดับความพร้อมรัฐบาลดิจิทัลหน่วยงานภาครัฐของประเทศไทยในระดับจังหวัด พิจารณาจากผลสำรวจความพร้อมของสำนักงานจังหวัดเพื่อเป็นตัวแทนของจังหวัด โดยกำหนดประเมินผล 2 ตัวชี้วัดย่อย ประกอบด้วย 1)
ระดับความพร้อมรัฐบาลดิจิทัลหน่วยงานภาครัฐ (น้ำหนักร้อยละ 2.5) และ 2) คะแนนความพร้อมรัฐบาลดิจิทัลหน่วยงานภาครัฐ (น้ำหนักร้อยละ 2.5) - เกณฑ์การประเมิน : สำนักงาน ก.พ.ร. ร่วมกับสำนักพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) กำหนดค่าเป้าหมาย
รายละเอียดตัวชี้วัด
ระดับความพร้อมรัฐบาลดิจิทัลหน่วยงานภาครัฐ (7 Pillar)
ประเด็นการประเมิน | ผลการดำเนินงาน |
---|---|
ระดับความพร้อมรัฐบาลดิจิทัลหน่วยงานภาครัฐ (7 Pillar) | 0 (Pillar) |
รายละเอียดตัวชี้วัด
คะแนนความพร้อมรัฐบาลดิจิทัลหน่วยงานภาครัฐ
ประเด็นการประเมิน | ผลการดำเนินงาน |
---|---|
คะแนนความพร้อมรัฐบาลดิจิทัลหน่วยงานภาครัฐ | 0.00 (คะแนน) |
รายละเอียดตัวชี้วัด
- PMQA 4.0 คือ เครื่องมือการประเมินระบบการบริหารของส่วนราชการในเชิงบูรณาการ เพื่อเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ของส่วนราชการกับเป้าหมายและทิศทางการพัฒนาของประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแนวทางให้หน่วยงานภาครัฐพัฒนาไปสู่ระบบราชการ 4.0 เพื่อประเมินความสามารถในการบริหารจัดการภายในหน่วยงานและความพยายามของส่วนราชการในการขับเคลื่อนงานให้บรรลุเป้าหมายอย่างยั่งยืน
- พิจารณาจากความสามารถในการพัฒนาการดำเนินงานเพื่อยกระดับผลการประเมินสถานะการเป็นระบบราชการ 4.0 (PMQA 4.0)
- พิจารณาจากผลการประเมินสถานการณ์เป็นระบบราชการ 4.0 (PMQA 4.0) ซึ่งเป็นคะแนนเฉลี่ยในภาพรวมทั้ง 7 หมวด ประกอบด้วย หมวด 1 การนำองค์การ หมวด 2 การวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ หมวด 3
การให้ความสำคัญกับผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หมวด 4 การวัด การวิเคราะห์และการจัดการความรู้ หมวด 5 การมุ่งเน้นบุคลากร หมวด 6 การมุ่งเน้นระบบปฏิบัติการ และหมวด 7 ผลลัพธ์การดำเนินการ
ประเด็นการประเมิน | ผลการดำเนินงาน |
---|---|
การประเมินสถานะของหน่วยงานในการเป็นระบบราชการ 4.0 (PMQA 4.0) | 0.00 (คะแนน) |