รายงานผลการประเมิน
ปทุมธานี
/ กลุ่มจังหวัดภาคกลางปริมณฑล100
-
รายละเอียดตัวชี้วัด
- ระบบ TPMAP หมายถึง ระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (Thai People Map and Analytic Platform : TPMAP) โดย TPMAP เป็นระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนตลอดทุกช่วงวัย และการแก้ไขปัญหาความยากจนและเหลื่อมล้ำแบบชี้เป้า เป็นระบบที่ใช้ระบุปัญหาความยากจนในระดับบุคคล ครัวเรือน ชุมชน ท้องถิ่น/ท้องที่ จังหวัด ประเทศ
- ระบบ TPMAP ใช้วิธีการคำนวณดัชนีความยากจนหลายมิติ (Multidimensional Poverty Index : MPI) โดยอาศัยหลักการที่ว่าคนยากจน คือ ผู้ที่มีคุณภาพชีวิตต่ำกว่าเกณฑ์คุณภาพชีวิตที่ดีใน 5 มิติ ได้แก่ด้านสุขภาพ ด้านการศึกษา ด้านรายได้ ด้านความเป็นอยู่ และด้านการเข้าถึงบริการภาครัฐ โดยใช้ตัวชี้วัดความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) 17 ตัวชี้วัด ในการคำนวณดัชนีความยากจนหลายมิติ (MPI)
- กลุ่มเป้าหมายการดำเนินการตามแนวทางการขับเคลื่อนการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 หมายถึง จำนวนครัวเรือนเป้าหมายตามระบบ TPMAP ปี 2566 ที่กระทรวงมหาดไทยแจ้งให้จังหวัดดำเนินการเมื่อเดือนมีนาคม 2566 (ข้อมูล ณ วันที่ 9 มีนาคม 2566) โดยกำหนดให้ติดตาม ดูแล สนับสนุนและให้ความช่วยเหลือครัวเรือนเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งบันทึกข้อมูลการให้ความช่วยเหลือในระบบ TPMAP Logbook ทุกครั้ง
- พิจารณาความสำเร็จของการดำเนินงานการขับเคลื่อนงานขจัดความยากจนของศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในระดับพื้นที่ จากจำนวนครัวเรือนเป้าหมายตามระบบ TPMAP ปี 2566 เทียบกับจำนวนครัวเรือนเป้าหมายตามระบบ TPMAP ปี 2566 ที่ผ่านเกณฑ์ความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ปี 2567
-
การประชุมคณะกรรมการกำกับการประเมินผลการปฏิบัติราชการของจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 เห็นชอบการทบทวนครัวเรือนเป้าหมายตามเงื่อนไขที่กำหนด
เพื่อเป็นครัวเรือนเป้าหมายในการดำเนินการสำรวจ จปฐ. ตามเกณฑ์การประเมินรอบ 12 เดือน 76 จังหวัด จาก 197,298 ครัวเรือน (ข้อมูล ณ วันที่ 9 มีนาคม 2566) เป็น 173,318 ครัวเรือน (ข้อมูล ณ 27 กุมภาพันธ์ 2567)
ประเด็นการประเมิน | ผลการดำเนินงาน |
---|---|
การขับเคลื่อนการดำเนินงานการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง | 100.00 (ร้อยละ) |
รายละเอียดตัวชี้วัด
- พิจารณาจากการสำรวจสภาพปัญหายาเสพติดในระดับหมู่บ้าน/ชุมชน จากระบบสารสนเทศยาเสพติดจังหวัด (NISPA) ครั้งที่ 1 ของปี (ห้วงระยะเวลาตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคม 2567)
ครั้งที่ 2 ของปี(ห้วงระยะเวลาตั้งแต่เดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2567) - หมู่บ้าน/ชุมชนที่ไม่พบปัญหายาเสพติด หมายถึง หมู่บ้าน/ชุมชน ที่ไม่พบผู้เสพและไม่มีผู้ค้ายาเสพติด
- หมู่บ้าน/ชุมชน หมายถึง หมู่บ้านและชุมชนที่ประกาศจัดตั้งอย่างเป็นทางการภายใต้คำสั่งของกระทรวงมหาดไทย
ประเด็นการประเมิน | ผลการดำเนินงาน |
---|---|
ร้อยละของหมู่บ้าน/ชุมชนที่ไม่พบปัญหายาเสพติด | 70.02 (ร้อยละ) |
รายละเอียดตัวชี้วัด
- พิจารณาความสำเร็จของการส่งเสริมให้สถานประกอบการเข้าสู่ระบบอุตสาหกรรมสีเขียว ในระดับใดระดับหนึ่ง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ที่ผ่านการประเมินตามเกณฑ์และได้รับรองอุตสาหกรรมสีเขียว เทียบจำนวนสถานประกอบการทั้งหมดที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงอุตสาหกรรม
- สถานประกอบการ หมายถึง สถานประกอบการทั้งหมดที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงอุตสาหกรรม
- สถานประกอบการภายใต้ พ.ร.บ. โรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562
- สถานประกอบการภายใต้ พ.ร.บ. การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2562
- สถานประกอบการภายใต้ พ.ร.บ. แร่ พ.ศ. 2560
- อุตสาหกรรมสีเขียว หมายถึง อุตสาหกรรมที่ยึดมั่นในการปรับปรุงกระบวนการผลิตและการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อการประกอบกิจการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
พร้อมกับการยึดมั่นในการประกอบกิจการด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมทั้งภายในและภายนอกองค์กรตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (คู่มืออุตสาหกรรมสีเขียว, 2562) - อุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) เป็นการจัดการสถานประกอบการให้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การหมุนเวียนของเสียกลับมาใช้ใหม่ (Waste Recovery)
ในกระบวนการผลิตการป้องกันปัญหามลพิษโดยใช้เทคโนโลยีสะอาด (Clean Technology) รวมทั้งการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco Product) มีการแลกเปลี่ยนของเสียที่จะเป็นวัตถุดิบให้กับโรงงานอื่น ๆ
(Industrial Symbiosis) โดยเน้นของเหลือใช้และของเสียกลับมาใช้ใหม่ตามหลักการ 3R’s Reuse Reduce Recycle ได้แก่ การลดของเสีย การใช้ซ้ำ และการนำวัสดุเหลือใช้/ของเสีย กลับมาใช้ประโยชน์ - อุตสาหกรรมสีเขียวยุคใหม่ต้องมีระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นระบบการจัดการของเสียและมลภาวะต่าง ๆ ระบบการจัดการพลังงาน กิจกรรมรักษาสิ่งแวดล้อมภายในองค์กร
การสร้างวัฒนธรรมและการสร้างเครือข่ายอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นโมเดลที่กระทรวงอุตสาหกรรมกำหนดขึ้นตามแนวคิด “โครงการอุตสาหกรรมสีเขียว” แบ่งเป็น 5 ระดับ โดยมีรายละเอียดดังนี้ระดับที่ 1 ความมุ่งมั่นสีเขียว (Green Commitment) คือ ความมุ่งมั่นที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และมีการสื่อสารภายในองค์กรให้ทราบโดยทั่วกัน
ระดับที่ 2 ปฏิบัติการสีเขียว (Green Activity) คือ การดำเนินกิจกรรมเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้สำเร็จตามความมุ่งมั่นที่ตั้งไว้
ระดับที่ 3 ระบบสีเขียว (Green System) คือ การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบมีการติดตาม ประเมินผล และทบทวนเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการได้รับรางวัล
ด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นที่ยอมรับ และการรับรองมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมต่าง ๆระดับที่ 4 วัฒนธรรมสีเขียว (Green Culture) คือ การที่ทุกคนในองค์กรให้ความร่วมมือร่วมใจดำเนินงานอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในทุกด้านของการประกอบกิจการจนกลายเป็น
ส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กรระดับที่ 5 เครือข่ายสีเขียว (Green Network) คือ การแสดงถึงการขยายเครือข่ายตลอดห่วงโซ่อุปทานสีเขียว โดยสนับสนุนให้คู่ค้าและพันธมิตรเข้าสู่กระบวนการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียวด้วย
-
ขอบเขตการประเมิน : ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ให้นับรวมสถานประกอบการที่ยังคงเปิดดำเนินการ และใบอนุญาตยังไม่หมดอายุ
ประเด็นการประเมิน | ผลการดำเนินงาน |
---|---|
ความสำเร็จของการส่งเสริมสถานประกอบการเข้าสู่ระบบอุตสาหกรรมสีเขียว | 85.07 (ร้อยละ) |
รายละเอียดตัวชี้วัด
14.1 รายได้จากการท่องเที่ยว
14.2 รายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP)
14.3 ค่าเฉลี่ยรายปีของปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5)
14.4 ค่าเฉลี่ยรายปีของปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10)
14.5 คุณภาพน้ำของแม่น้ำสายหลักอยู่ในเกณฑ์ดี
รายละเอียดตัวชี้วัด
- รายได้จากการท่องเที่ยวเป็นยอดรวมของรายได้จากการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและรายได้จากการท่องเที่ยวของผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
- ผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย หมายถึง นักท่องเที่ยวชาวไทย (ค้างคืน) และนักทัศนาจรชาวไทย (ไม่ค้างคืน)
- รายได้ของผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยพิจารณาจากการซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ ระหว่างการท่องเที่ยวในประเทศไทย ทั้งเพื่อตนเองหรือเป็นของฝาก ซึ่งครอบคลุมรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย (ผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ที่มิใช่ถิ่นที่อยู่ปกติ) ทั้งแบบพักค้างคืน และเช้าไป-เย็นกลับ
ประเด็นการประเมิน | ผลการดำเนินงาน |
---|---|
รายได้จากการท่องเที่ยว | 2,573.80 (ล้านบาท) |
รายละเอียดตัวชี้วัด
- รายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP) ประเมินจากรายได้การจำหน่ายผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (1 ตุลาคม 2566-30 กันยายน 2567)
ประเด็นการประเมิน | ผลการดำเนินงาน |
---|---|
รายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP) | 1,140.12 (ล้านบาท) |
รายละเอียดตัวชี้วัด
- การวัดผลรอบ 6 เดือน พิจารณาจากค่าคะแนนดัชนีคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน (Water Quality Index : WQI) ของลุ่มน้ำและจังหวัดเป้าหมายจากการเก็บน้ำในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2566
-
การวัดผลรอบ 12 เดือน พิจารณาจากค่าคะแนนดัชนีคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน (Water Quality Index : WQI) ของลุ่มน้ำและจังหวัดเป้าหมายเฉลี่ยในรอบปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
-
ผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ใช้ค่าคะแนนดัชนีคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน (Water Quality Index : WQI) ของลุ่มน้ำและจังหวัดเป้าหมายเฉลี่ยในรอบปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
-
ข้อมูลคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดินพิจารณาจากจุดตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษที่ใช้จัดทำรายงานสถานการณ์คุณภาพน้ำ
-
พิจารณาการประเมินผลเป็นรายแหล่งน้ำของจังหวัดเป้าหมาย
- ดัชนีคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน (Water Quality Index : WQI) การประเมินผลลัพธ์ค่าคะแนนรวมของคุณภาพน้ำ 5 พารามิเตอร์ ได้แก่
1. ออกซิเจนละลายน้ำ : DO
2. ความสกปรกในรูปสารอินทรีย์ : BOD
3. การปนเปื้อนของกลุ่มแบคทีเรียกลุ่มโคลิฟอร์มทั้งหมด : TCB
4. การปนเปื้อนของกลุ่มแบคทีเรียกลุ่มฟีคอลโคลิฟอร์มทั้งหมด : FCB
5. แอมโมเนีย : NH3-N - ค่าคะแนนรวมของคุณภาพน้ำ 5 พารามิเตอร์ มีหน่วยเป็นคะแนน เริ่มจาก 0 ถึง 100 คะแนน ดังนี้
91-100 คะแนน คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ดีมาก
71-90 คะแนน คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ดี
61-70 คะแนน คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์พอใช้
31-60 คะแนน คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม
0-30 คะแนน คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมมาก
ประเด็นการประเมิน | ผลการดำเนินงาน |
---|---|
คุณภาพน้ำของแม่น้ำสายหลักอยู่ในเกณฑ์ดี |
รายละเอียดตัวชี้วัด
- การวัดผลรอบ 6 เดือน พิจารณาจากค่าคะแนนดัชนีคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน (Water Quality Index : WQI) ของลุ่มน้ำและจังหวัดเป้าหมายจากการเก็บน้ำในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2566
- การวัดผลรอบ 12 เดือน พิจารณาจากค่าคะแนนดัชนีคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน (Water Quality Index : WQI) ของลุ่มน้ำและจังหวัดเป้าหมายเฉลี่ยในรอบปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
- ผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ใช้ค่าคะแนนดัชนีคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน (Water Quality Index : WQI) ของลุ่มน้ำและจังหวัดเป้าหมายเฉลี่ยในรอบปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
- ข้อมูลคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดินพิจารณาจากจุดตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษที่ใช้จัดทำรายงานสถานการณ์คุณภาพน้ำ
- พิจารณาการประเมินผลเป็นรายแหล่งน้ำของจังหวัดเป้าหมาย
- ดัชนีคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน (Water Quality Index : WQI) การประเมินผลลัพธ์ค่าคะแนนรวมของคุณภาพน้ำ 5 พารามิเตอร์ ได้แก่
1. ออกซิเจนละลายน้ำ : DO
2. ความสกปรกในรูปสารอินทรีย์ : BOD
3. การปนเปื้อนของกลุ่มแบคทีเรียกลุ่มโคลิฟอร์มทั้งหมด : TCB
4. การปนเปื้อนของกลุ่มแบคทีเรียกลุ่มฟีคอลโคลิฟอร์มทั้งหมด : FCB
5. แอมโมเนีย : NH3-N - ค่าคะแนนรวมของคุณภาพน้ำ 5 พารามิเตอร์ มีหน่วยเป็นคะแนน เริ่มจาก 0 ถึง 100 คะแนน ดังนี้
91-100 คะแนน คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ดีมาก
71-90 คะแนน คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ดี
61-70 คะแนน คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์พอใช้
31-60 คะแนน คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม
0-30 คะแนน คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมมาก
ประเด็นการประเมิน | ผลการดำเนินงาน |
---|---|
แม่น้ำเจ้าพระยาตอนกลาง | 74.00 (คะแนน) |
รายละเอียดตัวชี้วัด
- รอบ 6 เดือน วัดผลจากร้อยละจำนวนวันที่ปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ที่เกินค่ามาตรฐาน (ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่องกำหนดมาตรฐานฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ในบรรยากาศเฉลี่ยโดยทั่วไป ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป ให้ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง จะต้องไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) ในช่วง 6 เดือน ระหว่างเดือนตุลาคม 2566-มีนาคม 2567
- รอบ 12 เดือน วัดผลจากค่าเฉลี่ยรายปีของปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง กำหนดมาตรฐานฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ในบรรยากาศเฉลี่ยโดยทั่วไป ในเวลา 1 ปี ต้องไม่เกิน 15 มคก./ลบ.ม.) วัดผลในช่วง 12 เดือน ระหว่างเดือนตุลาคม 2566-กันยายน 2567
- พื้นที่เป้าหมายครั้งที่ 1 จังหวัดที่มีข้อมูลพื้นฐาน (Baseline) ครบ 3 ปี จำนวน 16 จังหวัด ประกอบด้วย ภาคเหนือ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน พะเยา แพร่ น่าน ตาก พิษณุโลก และนครสวรรค์ และปริมณฑล จำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม
- มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ปี 2567 กำหนดผลลัพธ์คุณภาพอากาศจำนวนวันที่ฝุ่นละออง PM2.5 เกินมาตรฐาน ในพื้นที่เป้าหมาย ดังนี้
(1) 17 จังหวัดภาคเหนือ ลดลงร้อยละ 30
(2) กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลดลงร้อยละ 5
(3) ภาคกลาง ลดลงร้อยละ 10 - มติคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบราชการ (อ.ก.พ.ร.) เกี่ยวกับการประเมินส่วนราชการตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ ครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 เห็นชอบให้จังหวัดประเมินตัวชี้วัดเพิ่มเติม จำนวน 23 จังหวัด และกำหนดค่าน้ำหนักเท่ากับร้อยละ 5 แบ่งออกเป็น
(1) จังหวัดที่มีข้อมูลพื้นฐาน (Baseline) ครบ 3 ปี จำนวน 12 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สระบุรี เลย หนองคาย นครพนม ขอนแก่น นครราชสีมา อุบลราชธานี กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี และสมุทรสงคราม
(2) จังหวัดที่มีข้อมูลพื้นฐาน (Baseline) เพียงแค่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 และหรือปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 - 2566 จำนวน 11 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดเพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร พิจิตร อุทัยธานี ลพบุรี บุรีรัมย์ มุกดาหาร สกลนคร และอุดรธานี
ประเด็นการประเมิน | ผลการดำเนินงาน |
---|---|
ค่าเฉลี่ยรายปีของปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) | 29.12 (ร้อยละ) |
รายละเอียดตัวชี้วัด
ตัวชี้วัดในองค์ประกอบที่ 2 การประเมินศักยภาพในการดำเนินงาน (Potential Base) น้ำหนัก
ร้อยละ 30 ประกอบด้วย 2 ประเด็นการประเมิน คือ การพัฒนาองค์การสู่ดิจิทัล และการประเมินสถานะของหน่วยงานในการเป็นระบบราชการ 4.0 (PMQA 4.0) โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 กำหนดให้ดำเนินการครอบคลุมทั้ง 76 จังหวัด ดังนี้
4.2.1 การพัฒนาองค์การสู่ดิจิทัล น้ำหนักร้อยละ 20 แบ่งออกเป็น
(1) การสร้างนวัตกรรมในการปรับปรุงกระบวนงานหรือการให้บริการ (e-Service) กำหนดวัดผลตัวชี้วัดร้อยละความพึงพอใจต่อการให้บริการประชาชนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) น้ำหนักร้อยละ 10
(2) การพัฒนาระบบข้อมูลให้เป็นดิจิทัล (Digitize Data) ทั้งข้อมูลที่ใช้ภายในหน่วยงานและข้อมูลที่จะเผยแพร่สู่หน่วยงานภายนอก/สาธารณะ เพื่อนำไปสู่การเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ (Open Data) กำหนดวัดผลตัวชี้วัดความสำเร็จของการจัดทำบัญชีข้อมูลภาครัฐ (Government Data Catalog) เพื่อใช้ประโยชน์ในการขับเคลื่อนประเด็นพัฒนาจังหวัด น้ำหนักร้อยละ 5
(3) การปรับเปลี่ยนหน่วยงานไปสู่ความเป็นดิจิทัล (Digital Transformation) กำหนดวัดผลตัวชี้วัดระดับความพร้อมรัฐบาลดิจิทัลหน่วยงานภาครัฐของประเทศไทยของจังหวัด น้ำหนักร้อยละ 5
4.2.2. การประเมินสถานะของหน่วยงานในการเป็นระบบราชการ 4.0 (PMQA 4.0) น้ำหนักร้อยละ 10